วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ธรรมะหรรษา

บุญที่ให้ทานแก่ปลา
ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี ทรงปรารภพ่อค้าโกงชาวเมืองสาวัตถีคนหนึ่ง ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธกว่า ...กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระโพธิสัตว์เกิดเป็นลูกชายของพ่อค้าตระกูลหนึ่งในเมืองพาราณสี มีน้องชายอยู่คนหนึ่ง เมื่อบิดาเสียชีวิตแล้ว สองพี่น้องได้ปรึกษาหารือกันเรื่องบริหารกิจการค้าขาย ตกลงกันเดินทางไปสะสางบัญชีการค้าที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ได้เงินพันหนึ่งแล้วก็เดินทางกลับมานั่งกินข้าวห่อรอเรือข้ามฟากที่ริมฝั่งแม่น้ำคงคา
หลังจากกินข้าวเสร็จแล้ว พระโพธิสัตว์ได้ให้อาหารที่เหลือแก่ปลาในแม่น้ำแล้วอุทิศส่วนบุญกุศลให้สรรพสัตว์รวมถึงเทวดาที่แม่น้ำนั้นด้วย เทวดาพออนุโมทนารับส่วนบุญเท่านั้น ก็เป็นผู้บริบูรณ์ด้วยลาภยศอันเป็นทิพย์ เมื่อให้อาหารปลาหมดแล้ว เขาก็ลาดผ้าบนหาดทรายล้มตัวลงนอนหลับไป ส่วนน้องชายของเขามีนิสัยเป็นหัวขโมยมาตั้งแต่เด็ก นั่งคิดวางแผนฉกเอาทรัพย์ จึงห่อก้อนหินขึ้นห่อหนึ่งขนาดเท่ากับถุงห่อเงินนั้น
เมื่อเรือข้ามฟากมาถึง เขาก็ปลุกพี่ชายแล้วถือถุงสองถุงขึ้นเรือไปก่อน เมื่อเรือไปถึงกลางแม่น้ำ เขาก็ทำให้เรือโคลงเคลง ทำทีเป็นเสียหลักโยนถุงหนึ่งลงน้ำไปพร้อมกับพูดขึ้นว่า
"พี่ ถุงห่อเงินตกน้ำไปแล้ว เราจะทำอย่างล่ะทีนี้"
"เมื่อในตกน้ำไปแล้วก็ช่างมันเถอะ อย่าคิดถึงมันเลย หาเอาใหม่ได้มากกว่านี้" พี่ชายตอบ
เทวดาประจำแม่น้ำคงคาเห็นเหตุการณ์นั้นตลอด จึงบันดาลให้ปลาปากกว้างตัวหนึ่งมากลืนกินถุงเงินนั้นไป ฝ่ายน้องชายเมื่อกลับถึงบ้านแล้วก็รีบแก้ถุงเงินอีกถุงหนึ่งออกดูด้วยความกระหยิ่มใจ แต่พอแก้ห่อดูกลับเป็นถุงห่อก้อนหิน จึงได้แต่นั่งคร่ำครวญเสียใจอยู่คนเดียวที่หลงทิ้งถึงห่อเงินลงน้ำไป ฝ่ายพี่ชายก็กลับไปบ้านของตนโดยไม่คิดอะไร
หลายวันต่อมา พวกชาวประมงไปหาปลา จับได้ปลาปากกว้างตัวนั้น จึงเที่ยวเดินขายปลาอยู่ว่า
"ปลาสด ๆ จ้า ตัวนี้ขายตัวละ 1,700 บาท สนไหมครับ " ชาวบ้านพากันหัวเราะเยาะว่า
"ปลาอะไรจะแพงขนาดนั้นล่ะ" จึงไม่มีใครซื้อไป พวกเขาเดินขายไปจนถึงประตูร้านบ้านของพระโพธิสัตว์ ได้ร้องขายปลาอยู่หน้าร้านนั้น พระโพธิสัตว์เดินออกมาดูปลา สนใจปลาปากกว้างตัวนั้น จึงถามราคาว่า
"ปลาตัวนี้ราคาเท่าไหร่จ้ะ"
"ผมขายให้ 28 บาทละกันครับ" ชาวประมงตอบ
เจาจึงซื้อปลาตัวนั้นไปมอบให้ภรรยาปรุงอาหาร พอภรรยาผ่าท้องปลาเท่านั้นก็พบถุงเงิน จึงมอบให้เขา เขาปิดดูเห็นตราประทับห่อของตนก็จำได้ จึงนั่งคิดแปลกใจอยู่คนเดียวว่า
"แปลกจัง ชาวประมงร้องขายปลาให้คนอื่น 1,700 บาท แต่ขายให้เราเพียง 28 บาท เราได้เงินคืนมาเพราะอะไรหนอ"
ขณะนั้น เทวดาได้ปรากฏร่างยืนอยู่ในอากาศ พูดว่า "เราเป็นเทวดาประจำแม่น้ำคงคา ท่านให้อาหารปลาวันนั้นแล้วอุทิศส่วนบุญแก่เรา เราจึงขอมองทรัพย์แก่ท่านคืน ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะแผนการของน้องชายท่านเอง ชื่อว่าความเจริญย่อมไม่เกิดแก่คนผู้มีจิตคิดร้ายผู้อื่น"
แล้วได้กล่าวคาถาว่า "ผู้ใดทำกรรมชั่ว ล่อลวงเอาทรัพย์สมบัติของพี่น้องและพ่อแม่ ผู้นั้นจัดว่าเป็นผู้มีจิตชั่วร้าย ย่อมไม่มีความเจริญ แม้เทวดาก็ไม่นับถือเขา" กล่าวคาถาจบก็หายร่างไป
***ผลบุญกุศลช่วยให้ผู้มีจิตไม่ประทุษร้ายได้รับของคืน แม้เทวดาก็สรรเสริญยกย่อง***

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น