วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2553

จดหมายถึงสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ

พระราชหัตถเลขาที่สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีไปถึงสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้นำมาเผยแพร่ ดิฉันเห็นว่าข้อความในพระราชหัตถเลขา มีประโยชน์มากต่อการดำเนินชีวิต และจะเห็นได้ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราทรงปฏิบัติธรรม และเข้าถึงธรรมขั้นสูงอย่างแท้จริง จึงได้คัดลอกนำมาเผยแพร่ไว้ ณ ที่นี้

ลูกพ่อ

ในพื้นแผ่นดินนี้ ทุกสิ่งเป็นของคู่กันมาโดยตลอด มีความมืดและความสว่าง ความดีและความชั่ว ถ้าให้เลือกในสิ่งที่ตนชอบแล้ว ทุกคนปรารถนาความสว่าง ปรารถนาความดีด้วยกันทุกคน แต่ความปรารถนานั้นจักสำเร็จได้ จักต้องมีวิธีที่จักดำเนินให้ไปถึงความสว่างหรือความดีนั้น ทางที่จักต้องไปให้ถึงความดีก็คือ รักผู้อื่น เพราะความรักผู้อื่น สามารถแก้ปัญหาได้ทุกปัญหา ถ้าให้โลกมีแต่ความสุขและเกิดสันติภาพ ความรักผู้อื่นจักเกิดขึ้นได้ พ่อขอบอกลูกดังนี้

๑. ขอให้ลูกมองผู้อื่นว่าเป็นเพื่อนเกิด เพื่อนแก่ เพื่อนเจ็บ เพื่อนตายด้วยกัน ทั้งหมดทั้งสิ้น ไม่ว่าอดีต...ปัจจุบัน...อนาคต
๒. มองโลกในแง่ดี และจะให้ดียิ่งขึ้น ควรมองโลกจากความเป็นจริง อันจักเป็นทางแก้ปัญหาอย่างถูกต้องและเหมาะสม
๓. มีความสันโดษ คือ มีความพอใจเป็นพื้นฐานของจิตใจ พอใจตามมีตามได้ คือ ได้อย่างไรก็เอาอย่างนั้น ไม่ยึดติด ขอให้คิดว่ามีก็ดี ไม่มีก็ได้ พอใจตามกำลัง คือมีน้อยก็พอใจตามที่ได้น้อย ไม่เป็นอึ่งอ่างพองลม จะเกิดความเดือดร้อนในภายหลัง พอใจตามสมควร คือทำงานให้มีความพอใจเหมาะสมแก่งาน ให้ดำรงชีพให้เหมาะสมแก่ฐานะของตน
๔. มีความมั่นคงแห่งจิต คือให้มองเห็นโทษของความเกียจคร้าน และมองเห็นคุณประโยชน์ของความเพียร และเมื่อเกิดสิ่งที่ไม่พึงปรารถนา ให้ภาวนาว่า ...มีลาภ มียศ สุข ทุกข์ ปรากฏ สรรเสริญ นินทา เสื่อมลาภ เสื่อมยศ เป็นกฏธรรมดา อย่ามัวโศกานึกว่า "ชั่งมัน"

พ่อ ๖/๑๐/๒๕๔๗

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงมีพระราชปรารภทิ้งท้าย

.....ฉันหวังว่า คำสอนของพ่อที่ฉันได้ประมวลมานี้ จะเกิดประโยชน์แก่ท่านผู้อ่านที่ได้พบเห็น และลูกอันเป็นที่รักของพ่อทุกคน

ฉันรักพ่อฉันจัง
สิรินธร