วันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

กรรมลิขิต

อานิสงส์เมตตา

พระภิกษุรูปหนึ่งจำพรรษาอยู่ที่วัดดุสิตาราม บางยี่ขัน ธนบุรี บ่ายวันหนึ่ง ขณะที่ท่านนั่งรถแท็กซี่ไปสถานีขนส่งสายเหนือ เพื่อโดยสารรถไปจังหวัดนครราชสีมา ท่านเห็นปูนาตัวใหญ่ยืนชูก้ามอยู่กลางถนน ท่านกลัวมันจะถูกรถทับตาย จึงให้คนขับหยุดรถข้างถนน แล้วท่านก็ลงไปต้อนปูตัวนั้น เสียเวลาอยู่นานกว่าจะต้อนมันลงคูน้ำข้างทางได้

เมื่อถึงสถานีขนส่งสายเหนือ รถเที่ยวสุดท้ายที่จะไปนครราชสีมาเพิ่งออกไป ท่านจึงต้องรอไปรถสายอุดร-หนองคาย เพื่อลงที่ปากทางเข้าเมืองนครราชสีมา แล้วต่อรถอีกทอดหนึ่ง เมื่อรถที่ท่านโดยสารวิ่งมาไม่นาน ก็เห็นรถโดยสารคันหนึ่งคว่ำอยู่ข้างทาง มีทั้งคนที่บาดเจ็บและเสียชีวิต รถคันที่เกิดอุบัติเหตุคือคันที่ท่านมาไม่ทัน อานิสงส์ของเมตตาช่วยให้ท่านรอดพ้นจากอันตราย (กฎแห่งกรรมของ ท.เลียงพิบูลย์ เล่ม 4)

ประเด็นที่ควรกล่าวถึงมีดังนี้
1. การช่วยชีวิตสัตว์ตัวเล็ก ๆ อย่างปู ดูไม่น่าจะเป็นความดีมากมายอะไร แต่การที่ต้องเสียเวลาต้อนอยู่นานจนเหนื่อยจึงสำเร็จ แสดงให้เห็นเจตนาดีอันแรงกล้า เมื่อเจตนามีกำลังแรงกล้า จึงเป็นกรรมดีที่มีผลมาก และให้ผลทันตาเห็น
2. กรรมดีต่างหากเป็นของดีที่ช่วยคุ้มกันภัยได้ เครื่องรางของขลังเป็นแค่วัตถุมงคลเท่านั้น ไม่ใช่ของดีที่ช่วยคุ้มกันภัย บางครั้งวัตถุมงคลเองนั้นแหละทำนำ (โจร) ภัยมาสู่เจ้าของ ผู้ร้ายหลายรายถูกยิงตายทั้งที่มีของขลังเต็มตัว

**************

พ้นเพราะบุญ

ทมิฬชื่อทีฆชยันตะ เอาผ้าแดงบูชาอากาสเจดีย์ซึ่งสูงระฟ้า ที่สุมนคิริมหาวิหาร ต่อมาตายไป บังเกิดในที่ใกล้อุสสุทนรก ได้ฟังเสียงเปลวไฟ ก็หวนระลึกได้ถึงผ้าแดงที่ตนนำไปบูชาอากาสเจดีย์ เขาจึงจุติไปบังเกิดในสวรรค์

มีอีกคนหนึ่ง ถวายผ้าสาฎกเนื้อเกลี้ยงแก่ภิกษุหนุ่มผู้เป็นบุตร เวลาที่ทอดผ้าไว้แทบเท้าของภิกษุผู้เป็นบุตร ก็ถือเอานิมิตในเสียงนั้นว่าแผ่นผ้า ๆ ได้ ต่อมาบุรุษนั้นก็ตายไปบังเกิดในที่ใกล้อุสสุทนรก หวนระลึกถึงผ้าสาฏกนั้นได้ เพราะได้ยินเสียงเปลวไฟ จึงจุติไปบังเกิดในสวรรค์
(อรรถกถาทูตสูตร มโนรถปูรณี ภาค 3)

ประเด็นที่ควรกล่าวถึงมีดังนี้
1. บุคคลทั้งสองพ้นจากนรกด้วยอำนาจของบุญที่ทำในชาติก่อน จัดเป็นอุปปัชชเวทนียกรรม
2. แม้จะมียศตำแหน่งสูง มีอำนาจวาสนา มีบริวาร มีทรัพย์สมบัติมากมาย ก็ไม่สามารถนำติดต่อไปปรโลกได้ เมื่อตายแล้วต้องละทิ้งสิ่งเหล่านี้ไว้ในโลก บุญที่ทำไว้เองเท่านั้นที่จะนำติดตัวไปปรโลกได้ บุญเท่านั้นที่เป็นที่ซ่อนเร้น เป็นที่พำนัก เป็นที่พึ่งอาศัยของผู้ที่จะไปสู่ปรโลก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น